เมื่อฤดูร้อนมาเยี่ยมเยือน หลายคนวางแผนหลบร้อนไปเที่ยวทะเล และถ้าคิดที่จะไปเกาะสวยๆ เชื่อว่าต้องมีจังหวัดสุราษฎร์ธานีอยู่ในใจ ก็เพราะสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดที่มีเกาะมากที่สุดในอ่าวไทย นับรวมกันได้ถึง 108 เกาะ!
ถึงนักท่องเที่ยวมักปักหมุดจุดหมายไปเที่ยวเกาะชื่อดังในจังหวัด เช่น เกาะสมุย เกาะพงัน เกาะนางยวน เกาะเต่า แต่เราอยากพาไปสำรวจเกาะเล็กๆ ในจำนวนร้อย ที่เคยอยู่นอกสายตา อาจเรียกได้ว่าเป็น “เกาะลับ” แต่ที่นี่กลับมีเรื่องราวที่อยากเล่าสู่กันฟัง
ก่อนออกเดินทางไปยังจุดหมาย ขอแชร์ข้อมูลการเติบโตด้านการใช้งานดาต้าของสุราษฎร์ธานีสักเล็กน้อย โดยศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย AI อัจฉริยะ BNIC (Business Network Intelligence Center) จาก ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้วิเคราะห์พฤติกรรม แนวโน้มการใช้งานดาต้าทุกจังหวัดทั่วประเทศ พบว่าสุราษฎร์ธานี ติดเทรนด์อันดับ 3 ที่มีการใช้ดาต้าเติบโตประมาณ 20% (รองจากภูเก็ต และสุพรรณบุรี) เรียกว่าเติบโตไปพร้อมกับกระแสท่องเที่ยวภาคใต้ที่มีความนิยมสูงขึ้น
เมื่อเดินทางมาถึงตัวเมือง ต้องเริ่มทริปด้วยการสักการะศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี สถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองที่งดงามโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัย และเสาหลักเมืองแกะสลักจากไม้ราชพฤกษ์ ที่ส่วนยอดแกะสลักเป็นรูปพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสี่หน้า ตลอดทั้งวันจะมีนักท่องเที่ยวและชาวเมืองเข้ามาเป็นจำนวนมาก
มาถึงแดนใต้ทั้งที ต้องไปลิ้มรสอาหารทะเลที่กลางทะเล! ล่องเรือออกจากชายฝั่งสัก 3 กิโลเมตร ชมชีวิตชาวประมงเพลินๆ มาที่ “สินมานะฟาร์ม” ฟาร์มหอยนางรมที่ขึ้นชื่อในเรื่องของขนาดตัวหอยที่กำลังพอดีและมีคุณสมบัติ “ขาว นวล อ้วน สะอาด” โดยมีเจ้าบ้านคอยให้คำแนะนำวิธีการกินหอยนางรมให้อร่อยถึงอรรถรสที่สุด ประสบการณ์ดีๆ แบบนี้ต้องโพสต์คลิปลงโซเชียลแบบเรียลไทม์ ซึ่งแม้ออกจากฝั่งมาไกล แต่ยังมีสัญญาณทรูที่ใช้ได้แบบไม่สะดุด
“เกาะนกเภา” คือจุดปลายทางสำคัญของทริป เกาะเล็กๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ในทะเลอ่าวไทย ในเขตพื้นที่ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือดอนสัก 30 นาที เมื่อมาถึงก็ได้สัมผัสบรรยากาศที่แสนสงบของหาดทราย ที่โอบล้อมด้วยทะเลใสสะอาด มองไปบนเกาะก็เห็นป่าเขาเขียวขจี เรียกได้ว่าที่นี่มีธรรมชาติที่งดงามครบสมบูรณ์
ปัจจุบันนี้ประชากรบนเกาะนกเภายังเป็นชาวบ้านดั้งเดิมที่อาศัยกันเป็นชุมชนเล็กๆ ประมาณ 40 ครัวเรือน หรือประมาณ 100 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน แต่มีที่พักแบบโฮมสเตย์ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติและความสงบเงียบ
“พี่เสธ” เจ้าของ “เกาะนกเภาโฮมสเตย์” เล่าว่า เมื่อก่อนบนเกาะไม่ค่อยมีสัญญาณมือถือ และไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตเลย การติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างติดขัด จนวันหนึ่งพี่เสธพานักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งไปดำน้ำ จึงได้เล่าเรื่องนี้ขึ้นมา ปรากฏว่ามีผู้ชายในทริปนั้นบอกว่า จะช่วยจัดการให้ สามเดือนต่อมาก็มีทีมงานจากทรู มาติดตั้งเสาสัญญาณให้เป็นรายแรก
เสาสัญญาณต้นแรกบนเกาะนกเภานี้ ทรูได้ติดตั้งเป็นเสาที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ชุมชนเล็กๆ บนเกาะนกเภาจึงได้ใช้งานมือถือและอินเทอร์เน็ตได้อย่างมีคุณภาพ ติดต่อสื่อสารกันได้ทุกเวลา ครูและนักเรียนก็ได้ใช้ประโยชน์ทางการศึกษา สำหรับเจ้าของกิจการอย่างพี่เสธ ก็สามารถโปรโมทกิจการโฮมสเตย์ทางออนไลน์ได้ และกลายเป็นที่รู้จักของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ สร้างรายได้ให้กับธุรกิจเล็กๆ ของชุมชน
ปัจจุบัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ติดตั้งใช้เสาสัญญาณโซล่าเซลล์ เป็นจำนวน 6% ของเสาทั้งหมดของทรู ซึ่งเป็นเส้นทางสู่ Net Zero ที่จะช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าและหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ทรูยังได้ขยายสัญญาณให้ครอบคลุมทั่วทั้งบนฝั่ง บนเกาะ กลางทะเล เพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้คนในพื้นที่ได้ใช้งานอย่างสะดวกสบายทุกเวลา
แม้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองร้อยเกาะ แต่บนดินแดนชายฝั่งก็มีสถานที่ดีๆ ให้แวะพักได้ หากอยากรับลมริมแม่น้ำและชมวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านที่ล่องเรือออกมาจับปลา ต้องมาที่ Brown Sugar คาเฟ่บรรยากาศดี ริมแม่น้ำตาปี ที่เพลินตาทั้งวิวเกาะลำพูกลางน้ำ และสะพานศรีตาปี ที่นี่มีมุมน่านั่งเยอะ พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มและขนมเค้กอร่อย ที่สำคัญคือมีโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าทรู ดีแทค อีกด้วย
ฤดูร้อนนี้และตลอดทั้งปี สุราษฎร์ธานี รอต้อนรับทุกคนให้มาสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติ และวิถีชีวิตอันมีเอกลักษณ์ ที่เพียงภาพถ่ายไม่อาจมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจได้ เท่ากับการไปเยือนด้วยตัวเอง
