“The Abyss Beyond” นิทรรศการดิจิทัลอาร์ต ที่พาไปดำดิ่งในห้วงเวลาลึกลับระหว่างความเป็นและความตายผ่าน Immersive Art ที่ส่งตรงจากประเทศเกาหลีใต้

26 กรกฎาคม 2567


เมื่อศิลปะไม่ได้ถูกจำกัดเพียงในกรอบ แต่ก้าวล้ำไปตามเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในช่วงที่ผ่านมานี้ “Immersive Art” ที่เป็นหนึ่งในรูปแบบงานศิลปะยุคดิจิทัลจึงเป็นที่น่าจับตา เพราะเป็นการจัดแสดงงานศิลปะในห้องโล่งกว้าง ผ่านการฉายภาพสาดแสงไปทั่วทุกมุม ให้ผู้ชมรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมกับแสงสี และมีส่วนร่วมกับงานศิลปะนั้นได้

และจะดีมากแค่ไหน ถ้าเราจะได้สัมผัสกับงานอาร์ตสุดล้ำในกลุ่มเล็กไม่เกิน 10 คน พร้อมกับเปิดให้รับชมงานถึง 2 รอบต่อการเข้าชมหนึ่งครั้ง เพื่อให้สัมผัสกับอรรถรสของการเสพศิลป์ของงาน Immersive Art ได้มากที่สุด

ความพิเศษเช่นนี้ มีเพียงที่นิทรรศการ “The Abyss Beyond” เท่านั้น ซึ่งถือเป็นความร่วมมือกันอีกครั้งของ ทรู ดิจิทัล พาร์ค และ Topos Studio ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีการจัดแสดงงานดิจิทัลอาร์ตจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งครั้งนี้จัดในพื้นที่ของ TDPK Studio 1 บนชั้น 2 ของ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ฝั่งเวสต์

ก่อนไปชมงาน อยากพาทุกคนไปสำรวจที่มาที่ไป ธีมหลักของงาน พร้อมคำแนะนำในการรับชม ที่จะทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์แสนพิเศษไปด้วยกัน

จากสตูดิโอชั้นนำจากเกาหลีใต้ สู่การจัดนิทรรศการดิจิทัลอาร์ตครั้งที่ 2 ในไทย

Topos Studio คือสตูดิโอที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการสร้างสรรค์ผลงานอาร์ตจากเทคโนโลยีดิจิทัลจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 โดยมีการร่วมมือทำงานกับศิลปินระดับโลกและครีเอเตอร์มากมาย โดยในปีที่ผ่านมา ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้เคยร่วมมือกับ Topos Studio จัดนิทรรศการศิลปะ “The Gate immersive Theater” ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี ทำให้ในปี 2567 นี้เกิดความร่วมมือในการจัดแสดงงานอีกครั้งกับนิทรรศการดิจิทัลอาร์ต “The Abyss Beyond”

“นิทรรศการครั้งนี้ตั้งใจถ่ายทอดผลงานศิลปะในสไตล์ Contemporary โดยร่วมมือกับ 2 ศิลปิน เพื่อถ่ายทอดผลงานโดยใช้พลังของสื่อใหม่ สร้างสรรค์เป็นงาน Immersive Art เพื่อมอบประสบการณ์ศิลปะแบบใหม่ ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเช่นเคย” Daegyeom Heo ซีอีโอของ Topos Studio กล่าว

Daegyeom Heo, Topos Studio

พื้นที่จัดแสดงงานยังคงเป็น ทรู ดิจิทัล พาร์ค ฝั่งเวสต์ โดยมีการพัฒนาพื้นที่เป็นโซน TDPK Studio ที่เปิดกว้างสนับสนุนงานอาร์ตและศิลปินรุ่นใหม่อย่างเต็มที่ ดร.ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวว่า

“นอกเหนือจากความตั้งใจให้พื้นที่ของเราเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีล้ำสมัยแล้ว เรายังเปิดกว้างสำหรับงานศิลปะรูปแบบต่างๆ รวมถึงงานศิลปะรูปแบบใหม่ที่ถ่ายทอดภาพและเสียงผ่านเทคโนโลยี ให้ได้มาจัดแสดงในคอมมูนิตี้แห่งนี้ โดยตั้งใจให้เป็นเวทีของศิลปิน สตูดิโอ รวมถึงสตาร์ทอัพต่างๆ ที่มีความสามารถทั้งไทยและต่างประเทศ”

“The Abyss Beyond” เปิดประสบการณ์อันลึกซึ้งของห้วงเวลาลึกลับที่ยากจะเข้าถึง

นิทรรศการ “The Abyss Beyond” ได้คัดสรร 2 ผลงานจาก 2 ศิลปินร่วมสมัยที่มีผลงานในธีมเดียวกัน นั่นคือการสื่อสารถึงเรื่องห้วงของจิตไร้สำนึก ช่วงเวลาที่เชื่อมต่อของความเป็นและความตาย ซึ่งเป็นห้วงเวลาลึกลับที่อยากให้งาน Immersive Art พาผู้ชมเข้าไปสำรวจ สร้างแรงบันดาลใจ และขยายความเข้าใจของเราเกี่ยวกับโลก และตัวตนของตัวเอง

ผลงานชิ้นที่หนึ่ง “Abyss of Black and Light: We are the Primitive of New Era” คือผลงานสุดท้ายในชีวิตของ Aldo Tambellini ศิลปินชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาลี ผู้บุกเบิกศิลปะ Media Art และนักสำรวจพื้นที่มืดตลอดชีวิต เรียกได้ว่าเขาเป็นผู้นำด้าน Avant-garde โดยร่วมก่อตั้ง Gate Theatre ในมหานครนิวยอร์ก และมีผลงานจัดแสดงในระดับนานาชาติมากมาย สำหรับผลงานที่จัดแสดงในครั้งนี้ใช้ภาพ สื่อที่สมจริง ที่มาพร้อมเสียง Ambisonics เพื่อสร้าง ‘มิติ’ ของพื้นที่

ผลงานชิ้นที่สอง “Abyss of the Unconscious: After Death Before the Birth” โดยคามิน เลิศชัยประเสริฐ ศิลปินไทยที่ผสานศิลปะเข้ากับจิตวิญญาณ สร้างสรรค์ผลงานที่มีเนื้อหาที่เน้นเรื่องความไม่เที่ยง การมีสติ และความเชี่อมโยงระหว่างกันของชีวิต สำหรับผลงานนี้จะพาไปสำรวจส่วนลึกอันมืดมิดของจิตใจมนุษย์ ดำดิ่งสู่สภาวะระหว่างช่วงท้ายของชีวิต สัมผัสปรัชญาของศิลปินเกี่ยวกับชีวิตและจักรวาลผ่าน ‘Golden Skull’ อันเป็นชิ้นงานที่แสดงถึงตัวตนของศิลปิน

จัดกลุ่มผู้เข้าชมกลุ่มเล็ก พร้อมข้อแนะนำให้สัมผัสกับประสบการณ์รับชมเต็มที่

“เนื่องจากทั้งสองผลงานเป็นการสื่อสารถึง Fine Art ที่มีความเป็นนามธรรมอย่างมาก จึงเป็นความตั้งใจที่จะจัดแสดงภายในห้องสตูดิโอสีขาวขนาดกำลังพอดีที่เรียกได้ว่าเป็น Theater และแสดงงานภาพบนจอแสดงผลมีเดีย 250 องศา พร้อมเสียง Ambisonics เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่ดีที่สุด เพราะเสียงไม่ใช่เพียงส่วนประกอบ แต่นับเป็นหนึ่งส่วนสำคัญในการส่งสารสู่ผู้ชม” Daegyeom Heo เน้นย้ำ

 

และเพื่อการรับชมแบบเต็มประสบการณ์ดังที่ผู้จัดแสดงตั้งใจ การเข้าชมในเวลาประมาณ 30 นาที โดยจะจัดแสดงผลงานให้ผู้ชมได้รับชม 2 รอบ โดยมีคำแนะนำในการชมดังนี้

รอบแรก – ชมและดำดิ่งกับผลงานทั้งแสงและเสียง

รอบที่สอง – เดินเข้าไปสัมผัสกับแสงที่สาดส่อง มีส่วนร่วมกับงานอย่างเต็มที่ พร้อมถ่ายภาพเก็บความประทับใจ

ทรู ดิจิทัล พาร์ค สตูดิโอ พื้นที่สนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ และการชมงานศิลปะที่ควรเกิดขึ้นได้ทุกเวลา

อีกหนึ่งความพิเศษของการแสดงงานครั้งนี้ คือ การจัดแสดงทุกวัน แบบไม่มีวันหยุด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนได้เข้ามาสัมผัสงานศิลปะได้อย่างสะดวกที่สุด

“เพราะเราเชื่อว่าศิลปะควรเป็นเรื่องใกล้ตัวผู้คนมากที่สุด นิทรรศการที่ทรู ดิจิทัล พาร์คจึงเปิดทุกวัน ไม่ได้มีวันหยุดประจำสัปดาห์ในวันจันทร์หรือวันพุธเหมือนกับที่อื่นทั่วไป เราอยากให้ผู้คนได้มีเวลาเข้ามาสัมผัสงานศิลปะได้ในช่วงที่พวกเขาสะดวก อาจเป็นเวลาพักกลางวันของวันทำงาน หรือในวันหยุดต่างๆ ที่สะดวกได้เช่นกัน” ดร.ธาริตทิ้งท้าย

Tarit Nimmanwudipong, General Manager, True Digital Park

  • นิทรรศการ “The Abyss Beyond” จัดแสดงระหว่างวันที่ 18 ก.ค. 67 – 30 ก.ย. 67 ที่ Studio 1 ชั้น 2 ทรู ดิจิทัล พาร์ค ฝั่งเวสต์ กรุงเทพฯ (สถานีรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี ทางออก 6) ตั้งแต่เวลา 30 น.  – 19.00 น. (ระยะเวลาการแสดง 30 นาที)
  • เปิดจำหน่ายบัตร Early Bird ในราคาพิเศษ 99 บาท จากราคาปกติ 149 บาท ระหว่างวันที่ 15 ก.ค. – 14 ส.ค. 67 สำหรับรับชมผลงาน “Abyss of Black and Light: We are the Primitives of a New Era” โดย Aldo Tambellini
  • จำหน่ายบัตรในราคาปกติ 149 บาท ระหว่างวันที่ 15 ส.ค. – 30 ก.ย. 67 สำหรับรับชมผลงาน “Abyss of Black and Light: We are the Primitives of a New Era” โดย Aldo Tambellini และ ผลงาน “Abyss of the Unconscious: After Death Before the Birth” โดย คามิน เลิศชัยประเสริฐ

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมสามารถจองบัตร และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

www.eventpop.me/e/41080/topos-the-abyss-beyond

ชมคลิป นิทรรศการดิจิทัลอาร์ต  “The Abyss Beyond”