องค์กรยุคใหม่ ชนะใจ Talent ด้วย “Inclusive Workplace” โอบรับทุกความแตกต่างบนทุกเส้นทางของการเติบโต

27 มิถุนายน 2567


ในโลกปัจจุบันของการใช้แรงงาน ความหลากหลาย (Diversity) ความเท่าเทียม (Equality) และการไม่แบ่งแยก (Inclusion) ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่บริษัทต่างๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญสูงสุดและจริงจัง ด้วย DE&I มีผลต่อความสำเร็จขององค์กรมากมาย จากรายงานของ McKinsey ระบุว่า บริษัทที่มีความหลากหลายและสร้างการมีส่วนร่วม มีแนวโน้มที่จะบรรลุผลการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งถึง 35% ขณะที่ Harvard Business Review (HBR) ระบุว่าความหลากหลาย เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้สามารถเจาะตลาดใหม่มากขึ้นถึง 70% นอกจากนี้ จากการศึกษาของ LinkedIn ยังพบว่า 76% ของพนักงานและผู้ที่กำลังหางาน มอง “Diversity” เป็นเงื่อนไขหลักของการพิจารณารับข้อเสนอตำแหน่งงาน สอดคล้องกับผลสำรวจที่พบว่า 80% ของผู้ตอบแบบสอบถามต้องร่วมงานกับบริษัทที่ให้ความสำคัญในประเด็นของ DE&I…และในฐานะ HR ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ นายมานะ โตเจริญ หัวหน้าสายงานด้านทรัพยากรบุคคล บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์การทำงานด้าน HR ของเทคคอมปานีไทย ในการสร้างสังคมการทำงานให้น่าอยู่สำหรับทุกคน (Diversity and Inclusion Promotion in Workplace) ในเวทีสัมมนา “ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน” จัดโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ และสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (UN Global Network Compact Thailand – UNGCNT)

เพราะ Diversity ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องเพศ

นายมานะ กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของการสร้างองค์กรที่พนักงานทุกคนเคารพในความหลากหลายได้อย่างแท้จริง คือการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง คำว่า “Diversity” นั้น ไม่ได้มีความหมายเพียงเฉพาะเรื่องเพศเท่านั้น หากแต่ครอบคลุมความแตกต่างในทุกมิติ เช่น ด้านเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สถานะทางสังคม อายุ และสภาพร่างกาย ซึ่งทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะผู้นำบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีของไทย เราเชื่อว่า “ความหลากหลาย” เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรม คิดค้นสิ่งใหม่ๆ รวมถึงการดึงดูดคนเก่งผู้มีความสามารถ (Talent) เข้ามาร่วมงานในองค์กร โดยทรู มุ่งส่งเสริมความเท่าเทียมกันของพนักงานทุกคน เคารพสิทธิมนุษยชน สร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งการมีส่วนร่วม อันมาซึ่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่พร้อมจะขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า ตลอดจนเปิดโอกาสให้เพื่อนพนักงานทุกคนได้มีพื้นที่ เป็นตัวของตัวเองได้อย่างน่าภูมิใจ”

“Diversity” นั้น ไม่ได้มีความหมายเพียงเฉพาะเรื่องเพศเท่านั้น หากแต่ครอบคลุมความแตกต่างในทุกมิติ เช่น ด้านเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สถานะสังคม อายุ และสภาพร่างกาย

“มองข้ามผ่าน” เพื่อจัดการกับ “ความท้าทาย”

ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้ความสำคัญกับคนทุกกลุ่ม ทุกความหลากหลาย รวมถึงกลุ่ม LGBTQIA+ ที่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมมาโดยตลอด ไม่ใช่แค่เฉพาะในเดือน Pride Month เท่านั้น ซึ่งหนึ่งในความท้าทายสำคัญของการปลูกฝังเรื่อง Diversity ในองค์กร คือ การทำให้ทุกคนได้เรียนรู้ที่จะ “มองข้ามเรื่องเพศสภาพ ทำอย่างไรให้บางคนที่อาจมี Negative Paradigm ที่ไม่คุ้นเคยกับคนกลุ่มนี้ สามารถ ข้ามผ่าน เรื่องอัตลักษณ์ทางเพศ หากแต่กลับมาสนใจในเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า นั่นคือศักยภาพในตัวบุคคลที่จะสร้างผลการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับ

 

“ตั้งแต่ประเทศไทยมีพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เมื่อ 9 ปีที่แล้ว เรา ก็เริ่มพัฒนานโยบายต่างๆ เพื่อแสดงถึงความเคารพในความหลากหลาย ความเท่าเทียมกันทางเพศ ทั้งการเปิดรับสมัครงาน หรือแม้กระทั่งหลีกเลี่ยงการเรียกสรรพนาม หรือ Gender Pronoun เพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่าสังคมการทำงานที่องค์กรแห่งนี้ปลอดภัย” นายมานะ กล่าว

วิถีการสร้าง Inclusive Workplace แบบฉบับทรู

ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ทำให้ Diversity เกิดขึ้นจริงได้ในองค์กร ผู้บริหารระดับสูงของทรู คอร์ปอเรชั่น ให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างจริงจัง สะท้อนจากการมีส่วนร่วมเป็น Champion ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กร เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่พนักงาน รวมถึงสนับสนุนด้านการสื่อสารในประเด็นนี้อย่างชัดเจน อันนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พนักงานในองค์กร

 

Recruitment Team ครึ่งหนึ่งเป็น LGBTQIA+ ด้วยเพราะต้องการสร้างความคุ้นเคย และความสบายใจให้แก่ผู้มาสมัครงาน ให้เห็นว่าทรู เป็นองค์กรที่ยอมรับเรื่องนี้ พร้อมให้เกียรติและเข้าใจพนักงานทุกคน ทุกกลุ่มอย่างแท้จริง

 

พร้อมรับฟัง เปิดโอกาสให้พนักงานทุกกลุ่มมาร่วมแสดงความคิดเห็น โดยทรู คอร์ปอเรชั่น ได้กำหนดให้มีสวัสดิการ วันลา และสิทธิพิเศษอย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงกลุ่ม LGBTQIA+ ไม่ว่าจะเป็น ลาเพื่อการผ่าตัดแปลงเพศ ลาเพื่อเข้าพิธสมรส เงินสวัสดิการสมรส ลาดูแลบุตรแรกเกิด หรือลาไปรับบุตรบุญธรรม พร้อมเงินสวัสดิการ ตลอดจนลาเพื่อฌาปนกิจ พร้อมเงินสวัสดิการช่วยเหลือ เป็นต้น

 

“ในวันที่เริ่มประกาศสิทธิประโยชน์ให้แก่ LGBTQIA+ เรา ยังคงตระหนักและพยายามสื่อสารมาโดยตลอดว่าองค์กรทรูแห่งนี้ ต้องการเติมเต็มพนักงานทุกกลุ่ม เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ไม่ได้หมายความว่า จะให้สิทธิพิเศษแก่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ในทางกลับกันกลุ่ม LGBTQIA+ ก็จะได้รับการอบรม เรียนรู้ว่าสามารถมีสิทธิและเสรีภาพได้ตราบเท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น เพื่อสร้างสุดยอดสถานที่ทำงาน เป็น Workplace ที่น่าอยู่และมีความสุขอย่างแท้จริง” นายมานะ กล่าวสรุป

ในวันที่เริ่มประกาศสิทธิประโยชน์ให้แก่ LGBTQIA+ เรายังคงตระหนักและพยายามสื่อสารโดยตลอดว่าองค์กรทรูแห่งนี้ ต้องการเติมเต็มพนักงานทุกกลุ่ม เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม