Releases

EP สุดท้าย #Saveสตรีทฟู้ด กับฮกกี่โภชนา ลิ้มรสอาหารแต้จิ๋วแบบดั้งเดิมที่เหมือนโล้สำเภามาจากเมืองจีน

28 พฤษภาคม 2563


ผ่านมาเกือบ 2 เดือนแล้วกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในไทย จนทำให้รัฐบาลบังคับใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม ปิดการให้บริการในบางธุรกิจเป็นการชั่วคราว ซึ่งหนึ่งในนั้่นคือ “ธุรกิจร้านอาหาร” เราได้เห็นการปรับตัวและเปลี่ยนแปลง เพื่อเอาตัวรอด แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากจิตวิญญาณของร้านอาหารเหล่านี้เลยก็คือ การส่งต่อความสุขผ่านความอร่อยและอิ่มเอมจากอาหาร และนี่จึงเป็นที่มาของ Special Series โดย dtac blog ที่ขอร่วมเป็นหนึ่งพลังในการช่วยเหลือพี่น้องชาวสามย่านผ่านการถ่ายทอดเรื่องราวของร้านและอาหารในช่วงวิกฤตโควิด


สำหรับร้านอาหารสุดท้ายกับซีรี่ส์ #saveสตรีทฟู้ด และ #ร้านอาหารชุมชนสามย่าน dtacblog เราภูมิใจขอเสนอร้านอาหารจีนระดับตำนาน “ฮกกี่โภชนา” ที่อยู่คู่กับถนนบรรทัดทองมากว่า 40 ปี ซึ่งที่นี่มีเมนูที่โดดเด่นอย่างมาก นั่นก็คือ “ห่านพะโล้”

คุณมะลิดา มลคลชัยวิวัฒน์ ทายาทรุ่นที่ 2 ของร้านฮกกี่โภชนา เล่าให้ dtac blog ฟังว่า “ร้านนี้ก่อตั้งขึ้นโดยคุณพ่อ ห่งเอี๊ยง แซ่โล้ว เดิมเป็นกุ๊กอยู่ที่เมืองจีนเเล้วอพยพหนีภัยสงครามและความยากจนมาเมืองไทย โดยยังคงนำความรู้ด้านอาหารจีนมาเลี้ยงชีพด้วยการหาบหม้อทองเหลืองขายกระเพาะปลาน้ำแดงไปตามที่ต่างๆ จนมาได้ทำเลดีที่ซอยจุฬา 34 ในปัจจุบัน เปิดเป็นร้านอาหารจีน โดยมีห่านพะโล้เป็นพระเอกของร้าน”


ห่านมีตัวโตและอวบอ้วนกว่าเป็ด หนังหนา เนื้อแน่น กลิ่นสาบน้อย แต่ตัวเนื้อจะหยาบกว่าเป็ด ทำให้เวลามาต้มพะโล้แล้วจะมีความอร่อยกว่า เพราะเนื้อห่านสามารถดูดซึมน้ำพะโล้ได้ดีกว่าเป็ด ทำให้เนื้อนุ่มและมีความชุ่มชื้นกว่า ต้มเสร็จ นำไปเลาะกระดูกเป็นชิ้นพอดีคำ จิ้มกับพริกน้ำส้ม คลุกกับข้าวสวยร้อนๆ ความอร่อยก็มาเสิร์ฟตรงหน้าแล้ว และนี่เป็นอีกความรุ่มรวยทางอาหารอย่างหนึ่งของคนจีนแต้จิ๋ว บรรพบุรุษของชาวจีนโพ้นทะเลที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยตั้งแต่ครั้งสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

เรื่องของอาหาร ต่างที่ต่างมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันไป อย่างที่นครซัวเถาจะมีความอุดมสมบูรณ์ทางอาหารมาก เพราะด้วยความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ซึ่งอยู่ติดกับทะเล ทำให้มีอาหารที่ค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่มีความคุ้นเคยดี ห่านพะโล้ก็เป็นหนึ่งในอาหารของชาวแต้จิ๋ว ออส่วน ผัดโหงวก้วย หรือกระเพาะปลาผัดแห้งก็ด้วย


 ซึ่งเมนูที่ว่านั้น ฝีมือของเชฟที่นี่ถือว่าได้เป็นหนึ่งในตองอูเลยทีเดียว อย่าง “ออส่วน” ที่นี่ทำได้น่าประทับใจมาก หอยนางรวมตัวใหญ่ๆ แน่นๆ ให้มาไม่หวงของ ส่วนตัวแป้งนั้นเหนียวนุ่ม ผัดเข้ากับเนื้อไข่ที่สุกกำลังพอดี จิ้มกับซอสพริกศรีราชา อร่อยเข้ากันดีจริงๆ

“ผัดหมี่ฮ่องกง” ที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้ใคร ด้วยเส้นหมี่ที่เหนียวนุ่มกำลังดี ไม่เละและไม่แข็งจนเกินไป จะว่าไปก็คล้ายๆ กับเส้นแบบอัลเดนเต้ของอิตาเลียน

นำมาผัดกับกุ้งและผักกะหล่ำปลีด้วยไฟแรง ทำให้จะติดกลิ่นไหม้หน่อยๆ ของกระทะหน่อยๆ แต่นี่แหละคือสเน่ห์ของอาหารจีน



“ไชเท้าก้วย” หรือขนมผักกาด ที่นี่จะเป็นแบบทรงเครื่อง มีเครื่องเสร็จสรรพ ซึ่งประกอบไปด้วยกุ้งแห้ง ถั่วลิสง เห็ดหอมและเมล็ดเกาลัด ไม่ต้องไปผัดกับถั่วงอกให้วุ่นวาย เพียงนำไปหั่นให้เป็นชิ้นบางๆ ทอดในน้ำมันความร้อนปานกลาง รอให้เหลืองกรอบ กินคู่กับซีอิ๊วดำหวาน อร่อยอย่าบอกใครเชียว

มื้อใหญ่อย่างนี้ ต้องอย่าลืมอาหารจานผัก ซึ่งเราขอแนะนำ “ผัดปวยเล้ง” หรือผักขมจีนนั่นเอง อาหารจานผักนั้นถือเป็นอีกจานที่พิสูจน์ความสามารถของเชฟเลยทีเดียว เพราะต้องใช้ไฟแรงที่เหมาะกับผักนั้นๆ เวลาที่ผัด และปรุงหนักขนาดไหน แต่ที่ฮกกี่โภชนาแล้ว ผัดผักปวยเล้งนั้นถือว่าสุดยอดมาก แม้จะผัดได้นุ่ม แต่ก็ยังคงความกรอบ ส่วนตัวน้ำมันหอยนั้นกลมกล่อมสุดๆ และแทรกรสชาติลงไปในตัวผักอย่างหมดจด คลุกกับข้าวสวยก็อร่อยได้ง่ายๆ แล้ว

คุณมะลิดา บอกว่า ตัวร้านเองได้รับผลกระทบอย่างมากช่วงโควิด อย่างตอนนี้เองแม้จะเปิดให้เข้ามารับประทานที่ร้านได้แล้ว โดยแบ่งเป็นช่วงกลางวัน (11.30-14.00 น.) และช่วงเย็น (16.30-20.00 น.) แต่คนก็ยังเข้ามาน้อยมาก ขนาดวันนี้ 11.45 น. แล้ว ก็ยังไม่มีคนเข้ามาเลย ยังดีที่พอได้วันเสาร์-อาทิตย์เข้ามาช่วยไว้ได้ ยังไงก็ขอเชิญชวนให้ทุกท่านเข้ามาลิ้มรสอาหารแต้จิ๋วแบบแท้ๆ ในราคาสบายกระเป๋ากันได้ที่ “ฮกกี่โภชนา”


แม้ EP นี้ จะเป็น EP สุดท้าย สำหรับ #saveสตรีทฟู้ด และ #ร้านอาหารชุมชนสามย่าน แต่สำหรับใครที่อยากช่วย #saveสตรีทฟู้ด และ #ร้านอาหารชุมชนสามย่าน แล้วละก็ สามารถมาช่วยกันอุดหนุนร้านอาหารที่ dtac blog ได้แนะนำไปตลอดช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ รับรองว่าอร่อย คุ้มค่า ในราคาสบายกระเป๋า แถมยังได้ช่วยต่อลมหายใจร้านอาหารเหล่านี้อีกด้วย


นอกจากนี้ ขอร่วมส่งท้ายแคมเปญดีๆ จาก “dtac reward #ตามใจปากทุกวันศุกร์” ที่ตลอดเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ดีแทคได้ร่วมช่วยเหลือร้านค้าสตรีทฟู้ดค่ะ ให้สู้ไปด้วยกัน ด้วยการมอบโค้ดส่วนลด 50 บาททุกวันศุกร์ ให้แก่ลูกค้าดีแทค เพื่อเอาไว้ใช้เป็นส่วนลดเวลาสั่งอาหารผ่านแอป foodpanda, Get, เรียกแมสเซ็นเจอร์ไปรับอาหารผ่านแอป Skootar  

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการ Save สตรีทฟู้ด อย่างต่อเนื่อง dtac ยังได้จัดทำ “คัมภีร์ 100 ร้านความอร่อย” ขึ้นมาค่ะ  รวม 100 ร้านเด็ดที่ dtac แนะนำให้คุณได้ไปลองชิม ต่อไปถ้าวันไหนนึกไม่ออกว่าจะกินอะไร เปิดคัมภีร์นี้เลยค่ะ มีหมด ทั้งเมนูคาวหวาน จะข้าว จะเส้น ของกินเล่น ขนมหวาน โดยทุกท่านสามารถดู “คัมภีร์ 100 ร้านความอร่อย” ได้ทาง LINE official ของ dtac reward และบนเว็บไซด์ dtac reward นะคะ 

นอกจากนี้ dtac reward ก็ยังมีสิทธิพิเศษส่วนลดอีกมากมายให้ที่ dtac app นะคะ ไม่อยากพลาดโหลด dtac app ติดเครื่องไว้ สบายใจ  

 

 

 


Related Content