- เปิดตัวโซลูชัน 5G IoT ในงานไทยแลนด์ 5G ซัมมิท 2022
- พร้อมผู้เชี่ยวชาญ 5G ร่วมนำประสบการณ์ทรานฟอร์มสู่โลกดิจิทัล
15 มิถุนายน 2565 – ดีแทคนำเทคโนโลยี 5G IoT เปิดตัวแก่ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรม องค์กร และโรงงาน เพื่อใช้เป็นโซลูชันสำคัญรับแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เผยไฮไลท์ 3 กลุ่ม คือ Smart Factory, Smart Logistics และ Smart Utilities พร้อมนำ 5G Private Network ร่วมเปิดตัว โดยผู้สนใจทั้งกลุ่มอุตสาหกรรม ลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ กลุ่มโรงงาน ห้ามพลาดเข้าชมได้ในงาน Thailand 5G Summit 2022 งานสัมมนาและจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม 5G จัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ระหว่างวันที่ 16-17 มิถุนายน 2565 ที่ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และ บางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์
ซาดัท ซามาน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ บริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “การลงทุน 5G เป็นคีย์หลักสำหรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม สิ่งสำคัญคือวันนี้ถึงเวลาที่เราต้องเร่งทรานฟอร์มสู่ดิจิทัล เพื่อสานต่อการพลิกฟื้นทางธุรกิจ ดีแทคเป็นผู้ริเริ่มในการผลักดันเส้นทางดิจิทัลสู่ประเทศไทยที่มีความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนำสู่การเปลี่ยนผ่านและการพัฒนาทุกภาคส่วนรวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มธุรกิจ เราเชื่อว่า 5G คือปัจจัยหลักนำไปสู่การปลดล็อกให้แก่ประเทศไทยได้ในช่วงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการเปิดประเทศ”
ตามข้อมูลรายงานจากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ระบุว่าภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเดือนเมษายน 2565 เมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ขยายตัว ร้อยละ 0.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศมีแนวโน้มคลี่คลาย ทั้งนี้ อุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลให้ MPI เดือนเมษายน 2565 ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน คือ ยานยนต์ ขยายตัวร้อยละ 12.82 ตามการขยายตัวของตลาดในประเทศ และตลาดส่งออก รวมถึงคำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้าที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมจะมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการส่งออกที่เติบโตต่อเนื่อง จากตลาดภายในประเทศฟื้นตัวหลังการเปิดประเทศอีกด้วย
ดีแทค บิสิเนสได้เปิดตัวโซลูชัน 5G IoT ใน 3 กลุ่มสำคัญ สำหรับงาน Thailand 5G Summit 2022 งานสัมมนาและจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม 5G เพื่อร่วมกระตุ้นการฟื้นตัวของประเทศ คือ
- โซลูชัน Smart Factory พลิกโฉมโรงงานและกระบวนการผลิตจากแบบเดิม หรือแอนะล็อก ให้ก้าวสู่ดิจิทัลและรองรับยุคบิ๊กดาต้า โดยโซลูชันที่ทีมดีแทคจะวิเคราะห์และออกแบบต่อยอดให้เครื่องจักรเดิมด้วย IoT เก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และมอนิเตอร์ข้อมูลเรียลไทม์ระยะไกล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และรองรับแพลตฟอร์มดิจิทัลแห่งอนาคต
- โซลูชัน Smart Logistics เปลี่ยนรูปแบบคลังสินค้า และการติดตามสินค้าแบบเดิมด้วย IoT และเซนเซอร์ที่รายงานข้อมูลเรียลไทม์ แม่นยำ ระบุตำแหน่ง และข้อมูลต่างๆ เช่น ค่าความชื้น อุณหภูมิ สินค้า เพื่อคุณภาพสินค้าที่ดียิ่งขึ้น ติดตามทรัพย์สินเพื่อความปลอดภัย
- โซลูชัน Smart Utilities ระบบสาธารณูปโภคอัจฉริยะ ทั้งระบบน้ำและไฟฟ้า โดย 5G โซลูชันบริหารจัดการน้ำอัจฉริยะ (Smart Water Management) จะวัดค่า pH สารเคมีที่ตกค้างในน้ำทิ้ง พร้อมแจ้งเตือนระดับความสูงของน้ำในการกักและระบายน้ำในเขตอุตสาหกรรม และ มาตรวัดน้ำอัจฉริยะ (Smart Water Meter Reader) ช่วยให้การเก็บข้อมูลมาตรวัดเป็นไปในแบบออนไลน์ สำหรับ Smart Utilities ด้านไฟฟ้าเหมาะสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและโรงงาน หรืออาคารที่ใช้ไฟฟ้าในธุรกิจขนาดใหญ่ด้วยรูปแบบ “5G โซลูชันบริหารพลังงานระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Energy Management)” พลิกรูปแบบการใช้งานตู้สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า หรือ MDB (Main Distribution Board) ช่วยป้องกันและแก้ปัญหาหรือลดความเสียหายที่เกิดจากกระแสไฟฟ้า เช่น ไฟฟ้าตก ไฟฟ้าเกิน ไฟฟ้ากระชาก หรือไฟฟ้าดับ เป็นต้น
นอกจากนี้ ดีแทค บิสิเนส ยังได้นำ 5G Private Network เจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรที่ให้ความสำคัญกับเครือข่ายเรื่องความปลอดภัยสูง และพลิกโฉมสู่ดิจิทัลแห่งอนาคต ร่วมเปิดตัวในงาน โดยเครือข่ายจะผสานกับการประมวลผลเอดจ์ คอมพิวติ้ง สามารถออกแบบขนาดได้ตรงการใช้งานในองค์กร ใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยี Massive IoT, Artificial Intelligence (AI), Machine Learning (ML), Augmented Reality (AR), Virtual Reality (VR), และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์
ทั้งนี้ ดีแทคมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยี 5G เพื่อพลิกฟื้นผู้ประกอบการและอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงความสำคัญในการทำงานในอีโคซิสเต็มส์ ร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งรัฐบาล ผู้ประกอบการ และคู่ค้าในอุตสาหกรรม ดีแทคนำเทคโนโลยีการสื่อสาร ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ ที่พร้อมจะนำคนไทยสู่ความยั่งยืนของยุค 5G