กรุงเทพฯ : 9 มกราคม 2567 – บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีชั้นนำอันดับ 1 ของไทย และอันดับ 1 ของโลกสำหรับดัชนีความยั่งยืน DJSI 2023 ในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ประกาศดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุดใหม่ระหว่าง 3.15-4.60% ต่อปี โดยมีหุ้นกู้เสนอขายจำนวน 5 รุ่น ตั้งแต่ 1 ปี 3 เดือน ถึง 10 ปี เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนทุกระดับ ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือระดับ “A+” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) จากทริสเรทติ้ง สะท้อนความแข็งแกร่งของสถานะบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมระหว่างทรูและดีแทค ซึ่งมีความมั่นคงยิ่งขึ้นทั้งในธุรกิจโทรคมนาคม และธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล คาดเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 26-30 มกราคม พ.ศ. 2567 โดยมีธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ซีไอเอ็มบี ไทย ยูโอบี และบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ รวมถึงการขายผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือ TRUE ชุดใหม่ เสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไป (Public Offering) ซึ่งเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และคาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 26 – 30 มกราคม พ.ศ. 2567 โดยในวันเสาร์ที่ 27 และวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2567 จะเปิดให้จองซื้อผ่านธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป
เผยเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้ลงทุนต่อเนื่อง หลังหุ้นกู้ TUC จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 15 และ 24 ม.ค. นี้
นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า “วัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ไปใช้ชำระคืนหนี้หุ้นกู้ และ/หรือ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการเติบโตของบริษัท โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด หรือ TUC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 15 และ 24 มกราคม พ.ศ. 2567 ก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจลงทุนต่อเนื่องสามารถนำเงินที่ได้รับคืน มาจองซื้อหุ้นกู้ TRUE ชุดใหม่ที่คาดว่าจะเปิดให้จองซื้อวันแรกในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 โดยหุ้นกู้ TRUE ชุดใหม่มีอายุระหว่าง 1 ปี 3 เดือน ถึง 10 ปี เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนทุกกลุ่ม นักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะสั้นก็สามารถเลือกลงทุนในรุ่น 1 ปี 3 เดือน ถึง 3 ปี 3 เดือน นักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะกลางก็อาจเลือกลงทุนในรุ่น 5 ปี 3 เดือน หรือนักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะยาวและต้องการดอกเบี้ยเพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็อาจเลือกจะลงทุนในรุ่น 10 ปี เพราะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า”
“ถือเป็นโอกาสอันดีของผู้ถือหุ้นกู้ TUC ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมกราคมนี้ ที่ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะมีการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในปี 2567 ตามการคาดการณ์ หลังจากที่ธนาคารกลางประเทศหลักๆ เช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอังกฤษ เริ่มส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567 หลังจากเงินเฟ้อเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง ทำให้การลงทุนในหุ้นกู้ซึ่งให้ผลตอบแทนคงที่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ในช่วงที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ยังไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจริง” นางสาวยุภา กล่าวเพิ่มเติม
โดยบริษัทฯ และหุ้นกู้ TRUE ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “A+” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” (“คงที่”) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2566 ซึ่งแสดงถึงสถานะความเสี่ยงด้านการเงินและด้านธุรกิจที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งมีตำแหน่งทางการตลาด (market position) ที่แข็งแกร่งในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ เสริมทัพด้วยโครงข่ายทั่วประเทศ ชุดคลื่นความถี่ที่ครอบคลุม และชื่อแบรนด์ที่ผู้บริโภคเชื่อถือ
อัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ TRUE ชุดใหม่ทั้ง 5 ชุดมีดังนี้
- หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.15% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.70% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 3 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.85% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 5 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.20% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 5 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.60% ต่อปี (ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ได้เมื่อหุ้นกู้ครบปีที่ 5)
ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวนซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th หรือ สอบถามรายละเอียดที่ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่
• ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาไมโคร) หรือ โทร. 1333 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Bualuang mBanking
• ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา โทร. 02 888 8888 กด 819 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 777 6784 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป SCB EASY และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 626 7777 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน แอป CIMB Thai Digital Banking
• ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 285 1555
• บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02 680 4004
สำหรับผู้สนใจจองซื้อหุ้นกู้ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet สามารถศึกษาเพิ่มเติมถึงรายละเอียด ขั้นตอน และวิธีการสมัคร TrueMoney Wallet Application และวิธีการจองซื้อ ได้ที่เว็บไซต์ www.truemoney.com หรือติดต่อขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ของ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด โทร. 1240 กด 6