Releases

ดีแทคประกาศมาตรการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19 (ฉบับที่ 9) ภายในองค์กร

13 มีนาคม 2563


ประกาศมาตรการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19 (ฉบับที่ 9) วันที่ 13 มีนาคม 2563

จากสถานการณ์การระบาดอย่างต่อเนื่องของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งยอดจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ บริษัทจึงพิจารณาขอแจ้งการปรับเปลี่ยนมาตรการ ตามสถานการณ์ล่าสุด ดังนี้

1. พนักงานซึ่งมีแผนการเดินทางส่วนตัวไปยังต่างประเทศ ทุกกรณี ขอให้ปฏิบัติ ดังนี้

  • 1.1. รายงานการเดินทางไปยัง Head of Health & Safety ซึ่งรวมถึงพนักงานซึ่งอยู่ในระหว่างการเดินทางเมื่อประกาศฉบับนี้มีผล
  • 1.2. รายงานกับ Head of Health & Safety เมื่อเดินทางกลับมา โดยจะแจ้งแผนการรองรับพนักงานต่อไป

2. บริษัทพิจารณาขอปรับเปลี่ยนรายชื่อประเทศกลุ่มเสี่ยง ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขและ WHO ดังนี้

1. ประเทศจีน 5. สิงคโปร์ 9. อิตาลี
2. ฮ่องกง 6. เกาหลีใต้ 10. ฝรั่งเศส
3. มาเก๊า 7. อิหร่าน 11. เยอรมัน
4. ไต้หวัน 8. ญี่ปุ่น 12. สเปน

และบริษัทพิจารณาขขอเพิ่มรายชื่อประเทศกลุ่มเสี่ยง จากอัตราการติดเชื้อที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนี้

1. สหรัฐอเมริกา 16. นอร์เวย์ 19. เนเธอร์แลนด์
2. เดนมาร์ก 17. สวีเดน 20. เบลเยี่ยม
3. สวิตเซอร์แลนด์ 18. สหราชอาณาจักร 21. ออสเตรีย

ทั้งนี้ มาตรการตามประกาศฉบับที่ 7 (26 กุมภาพันธ์ 2563) จะยังคงมีผลต่อเนื่อง ดังนี้

1.การเดินทางต่างประเทศในกิจการของบริษัท งดเดินทางไปต่างประเทศในทุกกรณี จนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลง

2.กรณีไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเดินทางส่วนตัวไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงได้ ให้พนักงานปฎิบัติดังต่อไปนี้

  • 2.1. ก่อนการเดินทางให้แจ้งผู้บังคับบัญชาโดยตรง Group Head และ Head of Health and Safety ทราบ
  • 2.2. เมื่อกลับมา ให้พนักงานเฝ้าระวังอาการอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน โดยใช้สิทธิ์การลาพักร้อน หรือ ลาโดยไม่รับค่าจ้าง ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อส่วนรวม
  • 2.3.  กรณีที่พนักงานป่วย ให้ใช้สิทธิ์ลาป่วยตามที่แพทย์กำหนด โดยมีใบรับรองแพทย์ กรณีไม่ถึง 14 วัน ให้ใช้สิทธิ์ลาพักร้อน หรือลาไม่ได้รับค่าจ้าง
  • 2.4. เมื่อกลับมาทำงานวันแรก ให้พนักงานใส่หน้ากากอนามัยพร้อมตรวจวัดอุณหภูมิ โดยผู้บังคับบัญชาโดยตรงหรือเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ

3. กรณีเดินทางไปประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากประเทศกลุ่มเสี่ยง

  • 3.1. ให้พนักงานแจ้ง ผู้บังคับบัญชาโดยตรง และ Head of Health & Safety
  • 3.2. หลังจากกลับมา ให้ใส่หน้ากากอนามัย พร้อมวัดอุณหภูมิร่างกายที่ห้องพยาบาลทุกวันเป็นเวลา 14 วัน

4. กรณีครอบครัวหรือผู้ติดต่อใกล้ชิดเดินทางไปและกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง

  • 4.1. ให้พนักงานปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง ใช้ของร่วมกัน หรือ อยู่ใกล้ชิด เป็นเวลา 14 วัน
  • 4.2. ให้พนักงานแจ้ง ผู้บังคับบัญชาโดยตรง และ Head of Health & Safety
  • 4.3. ใส่หน้ากากอนามัย พร้อมวัดอุณหภูมิร่างกายที่ห้องพยาบาลทุกวันเป็นเวลา 14 วัน

5. การเดินทางภายในประเทศในกิจการของบริษัท โดยเครื่องบิน จะอนุญาตเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นต่อธุรกิจเท่านั้น โดยต้องได้รับการอนุมัติจาก Group Head มีผลตั้งแต่ 16 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป

6. กรณีครอบครัวหรือผู้ติดต่อใกล้ชิดสัมผัสกับผู้ป่วยหรือผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ต้องเฝ้าระวังตามคำสั่งของกระทรวงสาธารณสุข (Patient under investigation) ให้ปฎิบัติตามข้อ 2.4 ของประกาศฉบับที่ 7

7. จำกัดการนัดหมายและพบปะโดยตรง ให้พนักงานปฏิบัติดังนี้

  • 7.1. การประชุมพบปะที่มีผู้เข้าร่วมประชุมภายนอก ทั้งจากหลาย BU หรือ แขกจากต่างประเทศ ที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ขอให้หลีกเลี่ยง หรือใช้ VDO Conference หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ผู้เข้าร่วมประชุมจากต่างประเทศ ต้อง self-quarantine จนครบ 14 วันมาก่อน และไม่มีอาการป่วย
  • 7.2. การประชุมพบปะภายในบริษัท ที่มีผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่า 15 คนขึ้นไป ขอให้หลีกเลี่ยง หรือใช้ VDO Conference, Workplace Live แทน  ในกรณีที่มีความจำเป็นต่อธุรกิจต้องขออนุมัติจาก Group Head ที่เกี่ยวข้อง
  • 7.3. กิจกรรม outing ขอให้เลื่อนไปจนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

8. สำหรับบุคคลภายนอกที่เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ในสถานที่ประกอบการของบริษัททุกพื้นที่ เช่น vendor, outsources, consultantsเป็นต้น ขอให้หน่วยงานต้นสังกัดแจ้งเกณฑ์การปฎิบัติตามประกาศนี้ให้ทราบ เพื่อถือปฎิบัติเช่นเดียวกัน

9. บริษัทแนะนำให้งดการพาสมาชิกในครอบครัวมายังสถานที่ประกอบการของบริษัททุกพื้นที่

10. หากพบว่าตนเองมีอาการป่วยหรือพบผู้ต้องสงสัย ให้ รีบพบแพทย์ และแจ้งผู้บังคับบัญชาโดยตรง และ Head of Health & Safety

ทั้งนี้ บริษัทขอความร่วมมือให้พนักงานทุกท่านปฏิบัติตามมาตราการนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในสุขภาพของตัวท่านเองและส่วนรวม

กรณีพนักงานไม่แจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องและไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่ประกาศไว้ข้างต้น หากบริษัทตรวจทราบภายหลัง บริษัทถือว่าฝ่าฝืนคำสั่ง ซึ่งจะถูกดำเนินการทางวินัย

ในส่วนของผู้บังคับบัญชาโดยตรงมีหน้าที่ดูแล รับผิดชอบ และตรวจสอบ ให้พนักงานปฎิบัติตามข้อกำหนดของบริษัท กรณีผู้บังคับบัญชาโดยตรงไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนด บริษัทถือว่าฝ่าฝืนคำสั่งเช่นกัน

มาตรการนี้มีผลตั้งแต่ วันที่ 13 มีนาคม 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งทางบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบอีกครั้ง

 

ด้วยความห่วงใย

กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล

 


Related Content