16 กรกฎาคม 2566 – ทรู-ดีแทค เดินทางมาถึงจังหวัดชลบุรี จุดหมายปลายทางสุดท้าย ของขบวนโรดโชว์ Better Together Festival พร้อมส่งมอบมหัศจรรย์ความสุขไปถึงพี่น้อง คนเมืองชล หลังจากไปลุยตลาด ทุกภูมิภาคทั่วไทย โดยนำจุดแข็งของทรู และ ดีแทค ทั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 5G พร้อมเน็ตไฟเบอร์ Infrastructure ที่แข็งแกร่งครอบคลุมกว่า ร่วมขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้เต็มประสิทธิภาพ พร้อม ‘นาย-ใบเฟิร์น’ พรีเซ็นเตอร์คู่ฮ็อตแห่งปี ที่พาความฟินจิกหมอน มาตอกย้ำแนวคิด Better Together ชีวิตดีกว่า เมื่อมีกันและกัน ส่งท้ายแคมเปญส่งมอบมหัศจรรย์ความสุขที่จังหวัดชลบุรี หลังจากโรดโชว์มาตลอดระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 8 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ขึ้นเหนือป่ะกันที่เชียงใหม่ ล่องใต้ ดีจังฮู้ที่สุราษฎร์ธานี คักหลายเด้อ ชาวขอนแก่น และทักครับ คนเมืองชล จังหวัดที่มีมนต์เสน่ห์แห่งท้องทะเล
โดยทรู และดีแทค ได้นำความแข็งแกร่งด้วย 3 สิ่งที่ดีกว่า คือ เครือข่ายมือถือและเน็ตบ้านที่ดีกว่า แพ็กเกจที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย และ สิทธิพิเศษที่เหนือกว่า เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงชีวิตดิจิทัล และ5G ที่ดีที่สุด ด้วยสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังราคาพิเศษ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองชล รวมถึงดิจิทัลโซลูชันเพื่อบ้านอัจฉริยะจาก TrueX พร้อมคอนเทนต์บันเทิงระดับโลกจากทรูวิชั่นส์ ตลอดจนการขยายโครงข่ายพื้นฐานดิจิทัลที่ครอบคลุมยิ่งขึ้นทั่วพื้นที่ภาคตะวันออก
นายฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า “ทรู เดินหน้าภารกิจการทำตลาดแบบเจาะลึกในภูมิภาคไปทั่วประเทศ ในฐานะผู้นำ เทเลคอม-เทคโนโลยี ที่มุ่งนำเทคโนโลยีเข้าถึงทุกคนและทำให้ชีวิตดียิ่งขึ้นในทุกวัน มุ่งให้ความสำคัญการขยายโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่จะนำเครือข่ายไร้สายที่มีประสิทธิภาพสูงสร้างประโยชน์ในการบริหารจัดการกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ผนวกกับเทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัยของทรูและดีแทค รวมถึงระบบนิเวศดิจิทัลที่ครบวงจร นำมาบูรณาการปรับใช้ในกระบวนการผลิต ช่วยภาคธุรกิจก้าวผ่านความท้าทายและขับเคลื่อนไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้สำเร็จ
จุดแข็งของทรู ร่วมสร้างโอกาสเติบโตในภาคตะวันออก
1. เครือข่ายมือถือและเน็ตไฟเบอร์ที่ดีกว่า ทรูได้นำโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการใช้งานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกอุตสาหกรรม EEC (Eastern Economic Corridor) ด้วยเครือข่าย เน็ต เร็วสูง 4G/5G ที่ดียิ่งขึ้น รวมทั้งขยายโครงข่ายไฟเบอร์เข้าถึงบ้าน ชุมชน และอาคารสำนักงาน พื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญ ตลอดจนมี Wi-Fi ครอบคลุมพื้นที่การใช้งาน 8 จังหวัดในภาคตะวันออก 16,028 จุด ผนวกกับความแข็งแกร่งจากการโรมมิ่งทรู ดีแทค ทำให้พื้นที่การใช้งาน 5G บนคลื่น 700 MHz ครอบคลุม 86% ของพื้นที่ 503 ตำบล 66 อำเภอ เข้าถึงประชากร 6 ล้านคน ครอบคลุม 92% ของประชากร และ 5G บนคลื่น 2600 MHz ครอบคลุม 13% ของพื้นที่ 125 ตำบล 31 อำเภอ เข้าถึงประชากร 1.8 ล้านคน ครอบคลุม 36% ของประชากร โครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว รองรับการใช้งานในพื้นที่อุตสาหกรรมและแหล่งท่องเที่ยว คือ
- เครือข่าย 5G Infrastructure รองรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม เช่น Network Slicing เป็นการแบ่งเครือข่าย 5G ที่มีอยู่ให้เป็นเครือข่ายเสมือน เพื่อคุณภาพการใช้งานสำหรับแต่ละองค์กรธุรกิจโดยเฉพาะ Private Network โครงข่าย 5G ที่ใช้งานภายในองค์กร โดยไม่ต้องแบ่งช่องสัญญาณกับใคร เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลธุรกิจในระดับสูงสุด Fixed Wireless Access (FWA) การกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 5G ไปยังอุปกรณ์รับสัญญาณ และกระจายสัญญาณต่อไปให้กับเครือข่ายภายในของธุรกิจ เพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้กับอุปกรณ์ต่างๆ Multi-Access Edge Computing (MEC) เทคโนโลยีเพื่อรองรับการเก็บข้อมูลและประมวลผลภายในพื้นที่ขององค์กร ทำให้ข้อมูลมีความปลอดภัยสูง ในขณะที่องค์กรสามารถเข้าถึงและรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว มีความหน่วงต่ำ ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถทำงานและตอบสนองได้แบบเรียลไทม์
- เครือข่ายที่ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น วอล์คกิ้ง สตีท พัทยา / สวนนงนุช / หาดจอมเทียน / หาดบางแสน / ถนนคนเดินบางแสน / แหลมแท่น / เกาะล้าน / เกาะช้าง
2. แพ็กเกจที่ตอบโจทย์การใช้งาน ผู้ใช้บริการทรู และดีแทค ในภาคตะวันออก มีการใช้งานดาต้า ในการดาวน์โหลด 17,072 เทราไบต์ เติบโตขึ้น 6% เมื่อเทียบกับต้นปี 2566 โดยมียอดใช้งานในเว็บไซต์ 78% ใช้โปรแกรมแชทส่งข้อความทาง LINE, Facebook 32.32% ใช้แอปดูความบันเทิง เช่น YouTube, Netflix, True ID 22.35% ใช้บริการโทรออนไลน์ ด้วย LINE Call, Face Time 3.56%
หลังการควบรวมทรู-ดีแทค ผู้ใช้บริการในภาคตะวันออกได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความพึงพอใจและเชื่อมั่นในการใช้งานโดยทรู และดีแทค มีส่วนแบ่งการตลาดลูกค้ามือถือในภาคตะวันออกมากเป็นอันดับ 1 คิดเป็น 58% และมีส่วนแบ่งการตลาดของบรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ต 33% ทั้งนี้เพราะทั้งทรูและดีแทค มีแพ็กเกจมือถือรายเดือนและเติมเงิน ที่ดีที่สุดจาก ทรู 5G Together Wonderful Pack และ ดีแทค 5G Better Wonderful Pack ที่มอบคุณค่าเพิ่มมากขึ้น ให้ฟรีของแถม อินเทอร์เน็ตเพิ่ม Wi-Fi ไม่จำกัด และสิทธิพิเศษที่ได้เพิ่มมากขึ้นหลากหลายแบรนด์ทั้งในห้างและนอกห้าง รวมทั้งแพ็กเกจเน็ตบ้านทรู Gigatex Fiber ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานในบ้าน ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ใช้ Wi-Fi ได้เร็วขึ้น รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากขึ้น ให้ผู้ใช้บริการ สามารถเข้าถึงในการใช้ ดิจิทัลแพลตฟอร์ม ได้ทุกความต้องการ
3. ช่องทางร้านค้าทรู และดีแทคที่อำนวยความสะดวก ในภาคตะวันออก ทรูมีจำนวนร้านค้า 72 แห่งร้านค้าดีแทคจำนวน 60 แห่ง ที่ให้บริการลูกค้าทั้งแบรนด์ทรูและดีแทคได้รับความสะดวกในการติดต่อใช้บริการได้ใกล้บ้าน รวมทั้งช่องทางออนไลน์จาก ดีแทค แอป และ ทรู iService
กิจกรรม Better Together Festival ที่ชลบุรีและในภาคตะวันออก ในครั้งนี้ เราต้องการนำเอาประโยชน์จากการใช้บริการของทั้งแบรนด์ทรูและดีแทค ที่เพิ่มมากขึ้นมามอบให้ผู้ใช้บริการ ได้สัมผัสประสบการณ์ ชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อเรามีกันและกัน โดยได้จัดแพ็กเกจและสิทธิพิเศษ ตลอด เดือน ก.ค. 66”
#TrueXdtacBetterTogether
#TruedtacXNineBaifern
#BetterTogetherFestival
#ชีวิตดีกว่าเมื่อมีกันและกัน
#ย้ายค่ายมาเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
#trueXdtac5Gที่ดีกว่า
#นายใบเฟิร์น