1.ก๋วยเตี๋ยวเป็ดสะพานเหลือง สาขา 1
ร้านนี้ไม่ได้ใหญ่โตแต่คนไม่ได้น้อยกว่าร้านดังๆ เลย เพราะก๋วยเตี๋ยวเป็ดสะพานเหลือง สาขา 1 มีเมนูเด็ดเป็นหม้อดิน สามารถเลือกได้ว่าจะเอาเป็นเป็ดล้วนหรือรวมมิตร ในหม้อจะมาพร้อมผักคะน้าอ่อนและน้ำราดที่เข้มข้น สั่งคู่กับข้าวสวยหรือบะหมี่จะทำให้รสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น ที่สำคัญน้ำจิ้มของทางร้านก็ทีเด็ดไม่แพ้กัน แต่หากใครมีเวลาไม่นานมาก จะสั่งเป็นก๋วยเตี๋ยวเป็ดก็อร่อยเช่นกัน
ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยกิจพานิชก่อนขึ้นทางด่วนพระราม 4 ที่มีธนาคารไทยพาณิชย์อยู่หน้าปากซอย ซึ่งช่วงกลางวันคนจะเยอะมากเป็นพิเศษ ใครจะมาอาจจะต้องวางแผน จองโต๊ะล่วงหน้า เผื่อเวลาสักเล็กน้อย
ที่อยู่: 66/108 ซอย กิจพานิช แขวง มหาพฤฒาราม เขต บางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-16:00 น.
เบอร์โทรศัพท์: 089-898-8415
ราคา: ฿
2.หมูสะเต๊ะซอยสว่างเจ้าเก่า
เดินต่อมาอีกหน่อยจากร้านก๋วยเตี๋ยว จะเจอร้านหมูสะเต๊ะซอยสว่างเจ้าเก่าอยู่ตรงหัวมุมถนน ร้านนี้เปิดมากว่า 50 ปีแล้ว มีลูกค้าเข้าออกอยู่ตลอดไม่ขาดสาย ทีเด็ดนอกจากจะเป็นหมูสะเต๊ะที่หมักจนหอมและนุ่มเหลืองแล้ว น้ำจิ้มก็อร่อยกลมกล่อมด้วยรสชาติหวานปนเผ็ดนิดๆ สามารถสั่งพร้อมกับขนมปังปิ้งนุ่มลิ้น มาตัดรสชาติกับหมูสะเต๊ะได้อย่างลงตัวที่สุด
หากใครจะมาสามารถหาเส้นทางได้จาก Google Maps เดินลัดเลาะมาถึงร้าน ไม่แนะนำให้นำรถมาเพราะซอยแคบและหาที่จอดรถได้ยากมาก
ที่อยู่: หัวมุมซอยสว่าง 6 ถนนสว่าง กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด: 12:00-21:00 น.
เบอร์โทรศัพท์: 02-236-2059
ราคา: หมูสะเต๊ะไม้ละ 8 บาท ขนมปังชิ้นละ 5 บาท
3.หยู่อี่เจ
มาถึงอาหารเจกันบ้าง ร้านนี้เปิดครอบคลุมทั้งมื้อเที่ยงและมื้อเย็น ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพง นับว่าเป็นร้านอาหารเจที่ครบครันมากที่สุดร้านหนึ่ง เมนูมีให้เลือกหลากหลายเหมือนร้านอาหารทั่วไปเลยก็ว่าได้ อาทิเช่น สลัดขาหมูเจ ปลามะนาวเจ เกี๊ยวทอด ผัดเผ็ดเป็ดเจ และโกยซีหมี่เจ เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงน้ำหล่อฮังก๊วย สมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณช่วยแก้ร้อนใน บำรุงหัวใจและปอด ที่สำคัญไม่มีแคลอรีอีกด้วย
หากนำรถมาสามารถเข้ามาจอดในซอยพระยาสิงหเสนีได้เลย แต่ถ้าใครเดินทางโดยรถสาธารณะ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพงจะอยู่ใกล้ที่สุด
ที่อยู่: 285 ถนนพระราม 4 ซอยพระยาสิงหเสนี ตรอกพระยาสิงห์เสนีย์ กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด: 10:00-21:00 น.
เบอร์โทรศัพท์: 02-219-1721
ราคา: ฿฿
4.ต้มเลือดหมู (ซอยจุฬา 50)
ร้านนี้ถือว่าเป็น hidden gem ของแท้ เพราะถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่ที่ผ่านไปมาแถวนี้บ่อยๆ จะไม่สามารถรู้จักได้เลย ต้มเลือดหมูร้านนี้พิเศษตรงที่น้ำซุปที่อร่อยรสชาติกลมกล่อม มาพร้อมหมูกรอบและเลือดหมูพอดีคำ สั่งคู่กับข้าวเปล่ารับรองว่าเด็ดจนต้องสั่งข้าวเพิ่ม
ทางไปร้านนี้คือเดินเข้าซอยจุฬาลงกรณ์ 15 จากถนนพระราม 4 พอผ่านร้านอี่โภชนาซึ่งจะมีตรอกเล็กๆ ไปสู่ศาลจีนด้านใน แต่ก่อนจะเดินเข้าตรอก ให้ลองสังเกตขวามือจะมีคอมมูนิตี้เล็กๆ น่ารักอยู่ตรงหัวมุม เป็นการรวมตัวการของแม่ค้าชาวสามย่าน เปิดเป็นศูนย์อาหารขนาดย่อม ซึ่งถนนตรงนี้จะต่อไปเป็นซอยจุฬาฯ 50 และหนึ่งในนั้นก็คือต้มเลือดหมูเจ้าเด็ดเจ้านี้นั่นเอง
ที่อยู่: ซอยจุฬา 15 ถนนพระราม 4, แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ, 10330 10330เวลาเปิด-ปิด: 10:00-21:00 น.
เบอร์โทรศัพท์: 089-496-7598
ราคา: ฿
5.เอ๋ซีฟู้ด
หากมาแถวบรรทัดทอง หลายคนคงคิดถึงร้านเจ๊โอวเป็นอย่างแรก แต่เราจะพาไปรู้จักอีกร้านชื่อ เอ๋ซีฟู้ด ร้านนี้ขายอาหารทะเลและทั่วไป มี 2 ชั้น เมนูอาหารมีตั้งแต่หอยแครงลวก ปลาหมึกผัดไข่ หอยเชลล์อบชีส หอยลายผัดฉ่า ไปจนถึงจานที่อร่อยเด็ดมากๆ อย่างกุ้งอบวุ้นเส้นที่ราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 70 บาทเท่านั้น ส่วนปลาทอดน้ำปลาถือเป็นหนึ่งในตองอูเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็มีเมนูอาหารทะเลอื่นๆ ที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ รับรองว่ารสชาติเหมือนทานอยู่ริมทะเลเลยทีเดียว
เอ๋ซีฟู้ดตั้งอยู่ปากซอยจุฬา 20 มีป้ายไฟเด่นชัดเจน ส่วนที่จอดรถต้องเสี่ยงดวงกันหน่อยว่าในซอยจะมีให้จอดหรือเปล่า และร้านนี้หยุดทุกวันที่ 16 ของทุกเดือน
ที่อยู่: 1664 ถนน บรรทัดทอง แขวง รองเมือง เขต ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
เวลาเปิด-ปิด: 17:30-23:30 น.
เบอร์โทรศัพท์: 081-619-1924
ราคา: ฿ ฿ ฿
หลังจากทานมื้อเย็นเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมปิดท้ายด้วยขนมหวาน ซึ่งในระแวกบรรทัดทองก็มีอยู่หลายร้านไม่ว่าจะเป็นร้านบัวลอยปริญญาในซอยจรัสเมือง หรือจะเป็นร้านขนมหวานเช็งซิมอี๊บริเวณแยกบรรทัดทองก็ได้เช่นกัน เราหวังว่าทั้ง 5 ร้านนี้จะเป็นไอเดียคำตอบให้กับคำถาม ‘วันนี้จะกินอะไรดี?’ ข้างต้น และหากใครมีโอกาสได้ไปลองชิมร้านเหล่านี้แล้วก็อย่าลืมบอกต่อให้เพื่อนๆ ได้ไปลิ้มรสกันด้วยแล้วกัน